วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กรุ๊ปเลือดกับการเลือกผลไม้


อาหารตามกรุ๊ปเลือดก็มีแล้ว ถึงคราวอินเทรนด์เรื่องผลไม้ตามกรุ๊ปเลือดกันบ้าง เอาไว้เป็นข้อมูลดูแลสุขภาพกันแบบง่ายๆ ค่ะ
      กรุ๊ป A โดยธรรมชาติชาวเอจะบอร์นทูบีมังสวิรัติ เพราะมีปริมาณกรดในกระเพาะต่ำ ไม่เหมาะกับเนื้อหรือนมที่ย่อยยาก แต่กลับถูกโฉลกกับผักผลไม้ โดยเฉพาะสับปะรดและเชอร์รี่ หรือผลไม้อื่นที่มีกรดสูง จะได้เข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอย่างไรล่ะ

      กรุ๊ป B คุณมีระบบย่อยที่ดีแต่ร่างกายเผาผลาญเพื่อนำพลังงานไปใช้ได้ไม่ดี จึงค่อนข้างอ้วนง่าย เป็นหวัดง่าย เหมาะกับการกินชีส นม และน้ำมันมะกอก ผลไม้ที่ดีต่อคุณคือสับปะรด กล้วย มะละกอ องุ่น ที่ย่อยง่ายและร่างกายดูดซึมไปใช้ได้เร็ว

      กรุ๊ป AB ลูกผสมระหว่างสองกรุ๊ปแรก การกินอาหารจึงต้องผสมผสานตามไปด้วย คนกรุ๊ปเอบีมักมีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันและกรดในกระเพาะต่ำ ต้องกินผักและเนื้อให้สมดุล ผลไม้ที่เหมาะคือ องุ่น พลัม เบอร์รี่ทั้งหลาย รวมทั้งสับปะรดและส้มโอ จะช่วยรักษาสมดุลกรด-ด่างในกระเพาะอาหารได้

      กรุ๊ป O ขั้วตรงข้ามกับกรุ๊ปเอ กระเพาะคุณมีความเป็นกรดสูงจึงเหมาะกับการย่อยเนื้อ และมีแนวโน้มอ้วนง่าย ผลไม้ที่เหมาะคือเกรพฟรุ๊ตและเบอร์รี่ต่างๆ ที่จะช่วยสร้างสมดุลในกระเพาะได้ ไม่ทำให้ระคายเคือง


   ใช่ว่าจะห้ามกินโดยสิ้นเชิง แต่หากผลไม้สุดโปรดไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของคุณอีกต่อไป ก็ควรเลี่ยงกินให้น้อยลงนะคะ

ยุโรปหนาวตายทะลุหลัก 600 ศพแล้ว


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนียว่า ประชาชนกว่า 600 คนแล้วที่ต้องเสียชีวิตไป เพราะคลื่นอากาศหนาวเย็นที่แผ่ปกคลุมไปทั่วทวีปยุโรปตะวันออก ในช่วงอากาศเย็นเป็นประวัติการณ์ของฤดูหนาวปีนี้

เจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 205 ศพ เพราะอากาศหนาวเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของฤดูหนาวปีนี้

ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ยูเครนมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 112 ศพ โปแลนด์อีก 107 ศพ ฮังการี 35 ศพ เซอร์เบีย 20 ศพ และอีก 10 ศพในโคโซโว


ส่วนในประเทศโรมาเนียก็เป็นอีกประเทศหนึ่งในยุโรปตะวันออกที่ได้รับผลกระทบจากภาวะอากาศหนาวเย็นในขณะนี้

มีประชาชนในราว 23,000 คน ในเขตชุมชน 225 ชุมชน ที่ต้องอาศัยอยู่ในสภาพที่ถูกตัดขาดและโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก 
เพราะมีหิมะตกหนักนานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ปิดกั้นเส้นทางสัญจรทางบก และยังกระทบไปถึงเส้นทางรถไฟอีกด้วย


ขณะนี้มีประชาชนเกือบ 4,000 คน กำลังขาดแคลนอาหารอย่างหนัก รวมถึงยารักษาโรค เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลโรมาเนียกล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตในสภาพหนาวตายเพิ่มขึ้นอีก 7 ศพเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพราะหนาวตายในโรมาเนียเพิ่มเป็น 86 ศพแล้ว

คนเราควรรู้จักกาลเทศะ




พระอาจารย์ กล่าวถึงเรื่อง กาลเทศะ ว่า "การดำเนินชีวิตของบุคคล กาลเทศะเป็นสิ่งสำคัญมาก กาละ คือ เวลาเหมาะสม เทศะ คือ สถานที่อันเหมาะสม ถ้ารู้กาลเทศะเราก็จะไม่ทำให้เสียหายพระอานนท์ เป็นเอตทัคคะด้านอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า ท่านรู้ว่าเวลาไหนควรจะพาบุคคลเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า เวลาไหนจึงไม่ควร ท่านจึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในเรื่องของการรู้กาลเทศะ อีกประการหนึ่ง..พระพุทธเจ้าท่านเทศน์ใน สัปปุริสธรรม ๗ ประการ คือ กาลัญญุตา รู้ว่ากาลใดควร กาลใดไม่ควร

ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามักไม่รู้กาลเทศะ ยกตัวอย่าง 
คุณเต้ย ไปหล่อ หลวงพ่อเหลือ ที่ วัดธรรมยาน คุณเต้ยใส่เสื้อแขนกุดกับกางเกงขาสั้นไป ทุเรศสุดๆ..! เขาเรียกว่า ไม่รู้กาลเทศะ เราจะไปเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน แต่งตัวอย่างนั้นยังถือว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง แล้วพระพุทธเจ้ายิ่งกว่าพระเจ้าแผ่นดินอีก แต่งตัวทุเรศอย่างนั้นยังอุตส่าห์ไปได้..! 

พอใครถามก็ดันไปอวดว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพี่สมปอง ลูกศิษย์หลวงพี่เล็ก ฟังแล้วตูจะเป็นลม..! ส่วนเวลาที่ไม่จำเป็น ดันแต่งตัวซะหล่อ เวลาที่ดีที่สุดกลับแต่งตัวทุเรศที่สุด เพราะฉะนั้น..
เรื่องกาลเทศะเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่างที่บอกว่า ปัจจุบันคนเราเอาความสบายส่วนตัว จนลืมความเหมาะสมไปแล้ว

แม้กระทั่งไปเคารพพระบรมศพ ยังเห็นเขาใส่กระโปรงกางเกงสั้นจู๋ ถึงแม้จะเป็นสีดำก็ตามเถอะ ลักษณะอย่างนั้นเรียกว่าไม่ให้เกียรติคนตาย เราจะเห็นว่างานศพระยะหลัง ๆ จะใส่สั้นกัน มากต่อมากด้วยกันที่แต่งตัวลักษณะไปเดินอวดกัน ไม่ได้ไปเคารพศพ 
การปฏิบัติธรรมยิ่งทำไปใจต้องยิ่งละเอียด ต้องรู้ว่าอะไรเหมาะ อะไรควร ไม่ใช่ยิ่งทำก็ยิ่งเละ..!"
สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๔

กระดาษลัง เจ๋งดีอะ!









ธรรมะสำหรับผู้ที่ผิดหวังในชีวิต




ถาม : ผมผิดหวังกับชีวิตมากเลยครับ มีธรรมะอะไรช่วยไม่ให้เครียด ?ตอบ : ถ้ารู้จักคำว่า "ธรรมดา" ก็จบเลย ฟังดูแล้วง่าย แต่ทำใจได้ยาก ถ้าเห็นว่าธรรมดาของการเกิดมาย่อมเป็นแบบนี้ก็ไม่มีปัญหา ถ้าหากเรารู้สึกว่า "ไม่ธรรมดา" เมื่อไรก็เครียด 
ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาอย่างนี้มีสำหรับเราเพียงชาติเดียว ชีวิตนี้ของเรากำลังจะผ่านพ้นไปแล้ว ชีวิตเรามีแค่เสี้ยวลมหายใจ หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออกไม่หายใจเข้าก็จะตายแล้ว ในเมื่อมีเวลาแค่ชั่วลมหายใจเดียว เราก็จะพ้นไปแล้ว ทำไมตอนนี้เราจะอยู่ด้วยดีไม่ได้


สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๔

คนดีเขาไม่ว่าใคร ...หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ




หลวงปู่ท่านมักกล่าวถึงมงคลที่สำคัญที่ท่านอยากให้ลูกศิษย์ได้นำไปปฏิบัติ คือ มงคล 38 ประการ มงคลที่ท่านพูดถึงบ่อย ๆ 
นั่นคือ สัมมาวาจาชอบ คือ พูดแต่สิ่งที่เป็นมงคล 
ท่านว่าคนส่วนมากมักสร้างกรรมทางวาจา เพราะกรรมนี้สร้างได้ง่าย 
แต่เขาไม่รู้หรอกว่าผลของกรรม เมื่อส่งผลจะร้ายแรงเพียงไร
คำพูดนั้นสำคัญมาก บางคนพูดไม่ดีกับผู้อื่น 
จนเป็นเหตุถึงโกรธเกลียดกันชั่วชีวิตก็มี 
บางรายคำพูดเพียงไม่กี่คำ ก็ทำให้ไม่พูดกันไปหลายปี 
คนส่วนมากที่ขึ้นโรงขึ้นศาล หรือทะเลาะกันจนไปถึงฆ่ากันตายก็เพราะคำพูดที่ไม่ดีนี่แหละ 
หลวงปู่ท่านสอนอยู่เสมอว่า อย่าไปพูดไม่ดีกับใครเขา 
ถ้ามีคนมาว่าหรือด่าเราแต่เราไม่ว่าหรือด่าเขาตอบมันก็จะไม่มีเรื่องกัน
แต่ถ้าแกไปด่าเขาเมื่อไรนั่นแหละเรื่องใหญ่ ท่านสอนศิษย์เสมอว่า 
อย่าไปพูดทำลายความหวังของใครเขา 
เพราะนั้นอาจจะเป็นความหวังเดียวที่เขามีอยู่ 
ถ้าแกไปพูดเข้าเมื่อไหร่กรรมใหญ่จะตกแก่ตนเอง 
ท่านบอกไว้อีกว่า คนที่ชอบด่าหรือใส่ร้ายผู้อื่นรวมไปถึงการพูดไม่ดีต่าง ๆ กับคนอื่นนั้น กรรมจะมาเร็วมาก 
เขาผู้นั้นจะเป็นคนที่มีศัตรูทั้งภายนอกและภายใน 
ไม่เป็นที่รักของคนทั่วไป ตรงกันข้ามกับเป็นคนที่น่ารังเกียจ
แก่คนทั้งหลาย กรรมนี้จะทำให้เขามีเรื่องและเดือดร้อนอยู่เสมอ ๆ 
ทั้งทางกายและทางใจ บางคนทำกรรมนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว 
พอกรรมดีที่ตนเคยสร้างมาแต่ปางก่อนหมดหรือเหลือน้อยลง 
กรรมชั่วที่สร้างนี้ก็จะสนองเขาอย่างหนักทั้งในภพนี้และภพหน้า 
ในภพนี้เวลาที่กรรมดีแต่ปางก่อนจะส่งผลให้มีความสุขหรือมีโชคลาภ 
กรรมชั่วก็จะเข้ามาตัดรอนกรรมดี เหมือนอย่างเขาผู้นั้น
ซื้อหวยเลข 56 หวยก็จะออกเลข 55 หรือ 57 บางที
ก็ติดต่อการค้าหรืองานต่าง ๆ มองเห็นอยู่ว่างานนี้ได้แน่นอน 
แต่พอถึงเวลาก็ไปไม่ทันบ้าง ไปแล้วไม่เจอหรือมีเหตุต่าง ๆ 
มาทำให้มีอุปสรรคอยู่เสมอ ๆ 
ซึ่งที่จริงแล้วผู้นั้นจะมีโชคที่ควรได้ประมาณเป็นล้าน ๆ เขาก็
จะได้แค่หมื่นสองหมื่นหรือโชคครั้งนี้จะได้หลายหมื่น
แต่เขากับได้เพียงไม่กี่พันบาทหรือเพียงได้ไม่กี่ร้อยเท่านั้นเอง 
นี้เป็นเพราะกรรมชั่วเข้ามาตัดรอนกรรมดี
และรวมถึงญาติพี่น้องลูกหลาน เขาเหล่านั้นก็จะทำความ
เดือดร้อนเสียหายมาให้ มีพี่น้องหรือญาติไปจนถึงเพื่อนฝูง 
ก็จะโกงทรัพย์สินเงินทองของเราบ้าง 
บางครั้งก็พูดใส่ร้ายให้โทษ ด่าว่าทะเลาะวิวาท 
ทำให้เราไม่สบายกายและสบายใจเป็นอย่างมาก 
มีเรื่องเดือดร้อนต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลาอย่างไม่จบสิ้น
มีลูกหลานก็จะดื้อด้าน ว่านอนสอนยาก ทำความเดือดร้อน
ให้เสียเงินทองอยู่มิได้ขาด ว่ากล่าวลูกหลานไม่เชื่อฟัง 
ไม่เคารพนับถือ ลูกหลานบางคนก็จะอกตัญญูตนเองมัก
จะเดือดร้อนด้วยการเป็นโรคร้ายที่รักษายากหรือรักษาไม่หาย 
เช่น อัมพฤต อัมพาต มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคร้ายต่าง ๆ 
อีกมากมายหลายชนิด 
หลวงปู่ท่านบอกไว้ว่า กรรมทางวาจามีร้ายแรงมาก 
การที่เราพูดใส่ร้ายหรือพูดไม่ดีจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและเสียใจ
หรือไปพูดทำลายความหวังต่าง ๆ ของเขาถ้ารู้ตัวให้หยุดเสีย

ถ้าไม่หยุดหรือเลิกทำเสียกรรมไม่สนองแต่ในชาตินี้ 
พอตายลงไปยังต้องไปใช้กรรมยังนรกตามขุมต่าง ๆ อีก 
ท่านจะพูดและสอนศิษย์อยู่เสมอว่า "คนดีเขาไม่ตีใคร" 
ความหมายว่าคนดีไม่ตีใคร ไม่ใช่เอาไม้หรือของแข็ง ๆ ไปตีเขา
แต่ท่านไม่ให้พูดจากไม่ดีด่าว่าใส่ร้ายทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสียหาย 
และ "ทุกข์ใจ"
หลวงปู่บอกว่าคนดีเขาไม่ว่าใคร 
ถ้าแกไปว่าเขาแกก็จะเป็นคนไม่ดี

...............................................................................................

"น้ำตาล" อันตราย! เท่ากับ บุหรี่และเหล้า เชื่อหรือไม่ ??




ในรายงานที่ปรากฎอยู่ในวารสาร Nature นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตซานฟรานซิสโกระบุว่า 
น้ำตาลโดยเฉพาะน้ำตาลปรุงแต่งซึ่งใช้ผสมในน้ำอัดลมและอาหารอีกหลายประเภทนั้น คือสาเหตุสำคัญของโรคอ้วนที่กำลังแพร่ระบาดในหมู่ประชากรอเมริกันและประชากรทั่วโลก

รายงานอีกชิ้นระบุว่าปัจจุบันมีประชากรอเมริกันน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานมากกว่า 2 ใน 3 ในจำนวนนี้ราวครึ่งหนึ่งเป็นโรคอ้วน และประมาณ 80% ของคนที่เป็นโรคอ้วนจะป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือมีปัญหาด้านการเผาผลาญอาหารซึ่งมีผลให้อายุสั้นลง

นอกจากนี้รายงานชิ้นหนึ่งของธนาคารโลกบอกด้วยว่าปัจจุบันปัญหาโรคอ้วนเป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศและเป็นสาเหตุของโรคที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุด เช่นโรคเบาหวาน โรคหัวใจและโรคมะเร็งบางประเภท

เวลานี้นักวิทยาศาสตร์ยังคงถกเถียงกันถึงผลกระทบของน้ำตาลและสารให้ความหวานที่มีต่อปัญหาโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน
แต่สิ่งหนึ่งที่นักวิจัยค่อนข้างมั่นใจคือน้ำตาลที่ปรุงแต่งขึ้นซึ่งมีสารฟรุคโทสในระดับสูง มีผลร้ายต่อสุขภาพมากกว่าน้ำตาลที่สกัดจากธรรมชาติ โดยเฉพาะผลเสียต่อตับ


นักวิจัยหลายคนมองว่าน้ำตาลเป็นสารอันตราย และแนะนำให้เก็บภาษีน้ำตาลเช่นเดียวกับภาษีบุหรี่และภาษีเหล้า รวมทั้งเสนอให้ใช้มาตรการห้ามขายเครื่องดื่มผสมน้ำตาลให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี และให้ใช้กฎหมายจำกัดพื้นที่ที่สามารถขายเครื่องดื่มผสมน้ำตาลและขนมขบเคี้ยวอื่นๆโดยไม่ให้อยู่ใกล้เคียงหรือภายในเขตโรงเรียน ส่วนผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำให้เก็บภาษีน้ำตาลและสารให้ความหวานตั้งแต่ระดับโรงงานผลิต เพื่อให้บริษัทต่างๆจำกัดการใช้สารให้ความหวานในสินค้าของตนให้น้อยลง

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยบางคนบอกว่าน้ำตาลนั้นไม่ใช่ตัวการที่แท้จริงของปัญหาโรคอ้วน แต่เป็นเพราะปัจจัยอื่นๆมากกว่า เช่นไขมันอิ่มตัว แป้ง หรือแม้แต่การขาดการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ